“เอาใจเค้า” หรือ “เอาใจเรา”ดี

 สำหรับวันนี้ ได้คำถามจากน้องไมโลนะคะ

“พี่มุ้ย แต่ถ้าเราวาดรูปออกมาสองแบบ แบบแรกเป็นสิ่งที่เราคิดว่า นี่แหละตัวเรา เราชอบวาดแบบนี้ เรามีความสุขกับสไตล์นี้เลยที่วาด กับอีกแบบเป็นแบบที่เราวาดได้ แต่ผลงานออกมาแล้วเราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ และก็ไม่ค่อยชอบวาดแบบนั้นด้วย แต่แบบหลังกลับเป็นแบบที่คนอื่นบอกว่าชอบกันมากกว่า บางครั้งไมโลก็คิดเหมือนกันว่าจะเอายังไงดี แต่ตอนนี้ก็ยังพยายามวาดไปเรื่อยๆ ตามหาว่าจะมีแบบไหนไหมที่เราเองก็ชอบวาดและคนอื่นก็ชอบด้วย พี่คิดว่าไมโลมาถูกทางแล้วรึยังอาคะ?”

พี่ตอบไปแล้วใน entry นะคะ

ตอบน้องไมโลนะคะ
พี่ก็เคยเป็นค่ะแบบนั้น
คือเวลาที่เราวาดอะไรแล้ว หลายๆคนบอกว่า ชอบอีกอันมากกว่า
พี่อยากจะบอกว่า ความชอบของคนเรานั้น ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ในการที่น้องไมโล จะวาดอะไรนั้น ดูว่าตัวเองวาดแบบไหนแล้วมีความสุขมากกว่ากันนะคะ
แล้วน้องจะสามารถพัฒนางานตัวเองได้ดีมากกว่า เมื่อน้องพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ คนที่เค้าเห็นงานเค้าก็จะสัมผัสถึงความตั้งใจของน้อง แล้วก็จะชอบงานน้องเอง ต่อให้คนทั้งโลกชอบงานเรา แต่เราไม่ชอบงานตัวเอง พี่คิดว่ายังไงคนที่วาดเพราะตัวเองมีความสุขน่าจะเป็นอะไรที่ดีกว่านะึคะ สู้ๆค่ะ

แต่จะบอกว่า
ในการทำงานวาดนั้น “สิ่งนี้”มักจะเป็นปัญหาเลยก็ว่าได้
สิ่งนี้ ที่ว่าคือ “เอาใจเค้า” หรือ “เอาใจตัวเอง”ดี
เพราะอะไรถึงเป็นปัญหา?
บางที “เค้า”ที่ว่านี่ คือลูกค้าซะด้วย
เวลาเราทำงานวาดนั้น ไม่ได้ทำตามใจตัวเองหรอกค่ะ
เพราะส่วนใหญ่เราต้องทำตามใจลูกค้า
เราจะต้องทำในสิ่งที่ลูกค้าชอบและอยากให้เราทำนะคะ
เราถึงสามารถทำงานต่อไปได้
(ถ้าน้องเอาใจตัวเองอย่างเดียว หลายๆครั้ง งานมักจะไม่ผ่าน)
มันจะไม่มีประโยชน์เลยถ้าสิ่งที่ลูกค้าชอบ เราไม่ได้ชอบด้วย
แต่มันจะไม่เกิืดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้นหรอก
เพราะยังไง น้องก็ชอบการวาดรูปใช่ไหมคะ?
เพราะฉะนั้นไม่ว่าน้องจะได้วาดอะไรน้องก็ยังคงมีความสุขอยู่ดี
พี่จะบอกข่าวดีว่า น้องไม่จำเป็นต้องทำตามลูกค้าตลอดไปถ้าน้องไม่ชอบ
เมื่อถึงจุดหนึ่งแล้วถ้าน้องมีทางเลือก
ที่น้องจะสามารถเลือกงานได้ว่าน้องจะทำงานแบบไหน
เมื่อถึงวันนั้นน้องก็จะได้วาดในสิ่งที่น้องเองโอเคด้วย
แต่นั่นหมายถึงว่าน้องเติบโตถึงระดับหนึ่งแล้วนะคะ
ถึงวันหนึ่งน้องจะเป็นผู้กำหนดเงื่อนไขในการทำงานของน้องเอง
กรณียกตัวอย่างงานของพี่นะคะ
พี่รับจ้างวาด commission นะ ถ้าพี่อยากวาดเฉพาะแบบที่พี่ชอบ
พี่ก็กำหนดเลยว่า พี่จะวาดแต่โมโนโทนนะ


พี่ไม่วาดแบบลงสีเต็มๆ พี่จะวาดภาพแนวนี้นะ ครึ่งตัวเท่านั้น
อันนี้คือเราเป็นคนกำหนดเงื่อนไขเอง
เพราะฉะนั้นเราก็จะได้ทำในสิ่งที่เราโอเคกับมันใช่ไหมคะ
แต่พี่อยากบอกว่า พอน้องทำทุกๆวัน ต่อให้เป็นสิ่งที่น้องชอบ
น้องก็อาจจะเบื่อได้เหมือนกัน เพราะคนเราต้องการความหลากหลาย
แต่ความเบื่อของน้องจะเทียบไม่ได้กับงานที่น้องไม่ชอบ
อันนั้นน้องจะเบื่อแบบมหาศาล
แต่ว่าพี่อยากจะบอกน้องๆว่า ในการพัฒนางานวาดนั้น
น้องต้องพัฒนาจากความสุขในการวาดของตัวเอง
แล้วน้ิองจะมีแรงบันดาลใจมากกว่า

ถ้าถามพี่ว่าน้องมาถูกทางไหม พี่คิดว่ามันอยู่ที่ตัวน้องด้วยส่วนหนึ่ง
เพราะการเป็นนักวาดนั้น เราไม่ได้ทำตามใจตัวเองทุกอย่างเพียงแต่ว่า
มันก็เบสจากความสุขในการวาดของเรา เริ่มแรกน้องควรวาดจากสิ่งที่น้องชอบก่อน
แม้คนอื่นจะมองว่าอีกแบบสวยกว่า น้องก็ควรจะเลือกในสิ่งที่น้องชอบนะคะ
สักวันเมื่อคนอื่นเห็นเราพัฒนาแล้ว เขาก็จะเข้าใจแนวของเรา
และยอมรับเราในแบบที่เราเป็นเองค่ะ
เพราะไม่ว่าคนอื่นจะว่าอย่างไร อย่างน้อยมีน้องคนหนึ่งที่ชอบงานตัวเองนะคะ

ความคิดเห็น